ต้องขับรถยังไง ไม่ให้ชนท้ายใคร ??
1. เว้นช่วงห่างระหว่างรถให้เหมาะสม
การขับรถบนทางถนนทั่วไป สถานที่ในเมือง หรือทางหลวงทางไกล ควรเว้นช่วงห่างจากรถยนต์ที่อยู่ข้างหน้า อย่างน้อย 60 เมตร เว้นเพื่อว่าสภาพอากาศไม่สู้ดี ควรทิ้งช่วงห่างให้มากกว่านั้น เนื่องจากเราไม่รู้ว่ารถยนต์คันข้างหน้า อาจจะเบรกกะทันหันขึ้นมา และรถยนต์ที่วิ่งตามหลัง หากมีรถตามหลังเป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุชนท้ายได้เป็นโดมิโน่ได้
2. ควรส่งสัญญาณให้ทราบล่วงหน้า
เมื่อจะเปลี่ยนเลนไปทางซ้ายหรือทางขวา ควรส่งสัญญาณไฟสลับเลนบอกรถคันอื่น ๆ ให้ทราบ ในระยะอย่างน้อย 60 เมตร เพื่อให้รถยนต์ที่เห็นหรือรถยนต์ที่ขับตามหลัง ชะลอความเร็วให้ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุไม่ให้เกิดรถชนท้ายนั่นเอง
3. การชะลอความเร็ว รวมถึงการเบรก
ควรดูรถยนต์ที่ขับตามหลังเราเสมอ หากกระชั้นชิด ก็ควรลดความเร็ว พร้อมแตะเบรกเบา ๆ เพื่อให้ด้านหลังทราบ และจะชะลอความเร็วตามเรา
4. การแซงรถคันข้างหน้า
หากช่องทางเดินรถที่จะแซงไม่มีรถยนต์วิ่ง สิ่งสำคัญควรแซงด้านขวามือของคนขับเสมอ หากขับในเวลากลางคืนก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะบางคัน อาจจะไม่เปิดไฟให้เรารู้เลย โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดหรือในเขตชุมชนที่มีกรณีเช่นนี้ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ
5. สัญญาไฟจราจร
สัญญาไฟจราจรเป็นสิ่งที่ต้องพึงตระหนักเป็นอย่างมาก หากอยู่คันแรกตอนรอสัญญาณไฟ ให้เราเตรียมพร้อมเสมอ เพื่อจะได้เป็นการบ่งบอกคันหลังว่า ให้เตรียมขับรถตามได้ และคันหลังก็ทิ้งช่วงให้เหมาะสม เพื่อลดการชนท้าย
6. รถบรรทุก
หากขับรถตามหลังรถบรรทุกในเวลากลางวัน ให้สังเกตผ้าแดงที่แขวนอยู่ท้ายรถบรรทุก เมื่อขับรถในตอนกลางคืน รถบรรทุกที่ขับนั้นให้ติดสัญญาณไฟที่มองเห็นได้ชัด ในวิถี 150 เมตร เพื่อให้รถที่ตามหลังได้เห็นได้ชัดเจน
7. การจอดรถ
การจอดรถควรเปิดสัญญาณไฟตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนหยุด หรือจอดรถในระยะ 30 เมตร เป็นอย่างต่ำ และควรจอดริมไหล่ทางฝั่งซ้าย เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจรกับรถคันอื่นๆ เพื่อลดอุบัติเหตุชนท้ายนั่นเอง