ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าที่นั่งนิรภัยเด็กสามารถลดการเสียชีวิตของเด็กได้ถึง 70% ซึ่งควรใช้ให้เหมาะกับช่วงอายุ น้ำหนัก และส่วนสูงของเด็ก (ตามข้อกำหนดของบริษัทผู้ผลิต) โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
แบบติดตั้งหันหน้าไปทางด้านหลังรถ (Rear-Facing Car Seat)
เป็นที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กทารก ใช้ในเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 2 ปี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกต้นคอหัก จากการสะบัดของศีรษะเมื่อเกิดการชนหรือเบรกรุนแรง
แบบติดตั้งหันหน้าไปทางด้านหน้ารถ (Forward-Facing Car Seat)
เป็นที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเล็ก ใช้ในเด็กอายุ 2-7 ปี
คำแนะนำในการเลือกใช้ ดังนี้
- เลือกที่นั่งนิรภัยเด็กที่ผ่านมาตรฐาน
- ที่นั่งนิรภัยเด็กทุกประเภท ให้เด็กนั่งจนกว่าจะมีน้ำหนักและส่วนสูงเกินเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
- ติดตั้งที่นั่งนิรภัยเด็กทุกประเภทไว้ตรงเบาะหลังของรถยนต์
- หากรถไม่มีเบาะหลัง ให้ติดตั้งที่นั่งนิรภัยเด็กข้างเบาะคนขับ และห้ามใช้ถุงลมนิรภัย หรือเลื่อนเบาะไปด้านหลังให้มากที่สุด เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุกระแทกแรง ถุงลมนิรภัยอาจอาจอัดกระแทกเด็กได้
CR : the standard, thealphaparent