วิธีปะยางรถยนต์อย่างถูกต้อง และปลอดภัย
รู้จักวิธีปะยางรถยนต์ รั่วเมื่อไหร่ ก็รับมือได้ถูกต้อง
อุปสรรคหนึ่งที่ผู้ขับขี่ส่วนมากจะต้องเคยประสบ ก็คือปัญหายางรถยนต์รั่วซึม ที่มีสาเหตุทั้งจากเศษวัสดุบนท้องถนน อย่างตะปู น็อต หรือของแหลมคมที่ผู้ขับขี่มักไม่ทันสังเกตเห็น ปัญหายางรถยนต์รั่วซึมแม้เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เกินจะจัดการ เพราะสามารถซ่อมแซมได้ไม่ยาก และราคาไม่สูง อีกทั้งมีร้านให้บริการอยู่ทั่วไป และการซ่อมแซมบางวิธีก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการรั่วซึมของยาง โดยส่วนมากแล้วหากยางรถยนต์ไม่ได้เสียหายทั้งเส้น ก็จะแก้ปัญหาด้วยการปะยางรถยนต์ ซึ่งก็คือการซ่อมแซมยางที่มีรอยรั่ว ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ เหมือนกับการปะชุนซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ขาดนั่นเอง
วิธีปะยางรถยนต์แบ่งได้เป็น 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
1. การปะยางรถยนต์แบบแทงใยไหม
การปะยางรถยนต์แบบแทงใยไหมเรียกอีกอย่างว่า การปะยางแบบสอดไส้ เป็นวิธีการอย่างง่ายในการซ่อมแซมยางรถยนต์ ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากเพียงดึงสิ่งที่ตำยางรถยนต์ออก ใช้ตะไบหางหนูหรือสว่านเบอร์เล็กทะลวงแผลให้ขยายออกสำหรับแทงไหมลงไป สังเกตให้ปากแผลเรียบ อย่าให้มีโครงลวดของยางทิ่มออกมา แล้วจึงนำอุปกรณ์แทงใยไหมลักษณะคล้ายเข็มร้อยขนาดใหญ่ ทากาวแล้วร้อยไหมเข้าไปในตาเข็ม แล้วอุดลงไปในรูแผลที่เตรียมไว้ ดึงเข็มขึ้นมาและตัดไหมส่วนเกินออกก็เรียบร้อย
วิธีปะยางรถยนต์แบบแทงใยไหมเหมาะสำหรับซ่อมรูรั่วเล็ก ๆ เท่านั้น ส่วนมากใช้เมื่อยางรถยนต์ถูกตะปูหรือเหล็กแหลมทิ่มตำ มีข้อดี คือ ช่วยแก้ปัญหายางรั่วได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำได้ด้วยตนเอง ส่วนข้อเสียก็คือ ใช้ได้เฉพาะบาดแผลขนาดเล็ก และยังอาจเกิดการรั่วซึมที่แผลเดิมได้
ปัจจุบันการปะยางรถยนต์แบบแทงใยไหมสามารถทำได้เอง เพื่อซ่อมแซมยางในเบื้องต้น โดยอุปกรณ์แบบครบชุดสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด หรือผ่านช่องทางออนไลน์ ราคาไม่แพง ช่วยให้เราซ่อมแซมยางรถยนต์ได้ในกรณีฉุกเฉิน ไม่ต้องพึ่งช่าง สำหรับมือใหม่ หลังจากปะยางเสร็จแล้ว หากมีเวลาควรเข้าศูนย์บริการหรือร้านยางเพื่อให้ช่างตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์อีกครั้ง
ทั้งนี้ ข้อควรระวัง คือ ถ้าหากรอยรั่วเกิดขึ้นบริเวณแก้มยางหรือไหล่ยาง ไม่ควรปะยางเด็ดขาด ต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่เท่านั้น
2. การปะยางรถยนต์แบบสตรีม
การปะยางรถยนต์แบบสตรีมมีทั้งแบบสตรีมร้อน และสตรีมเย็น ซึ่งทั้งสองแบบจะใช้วัสดุเป็นแผ่นยางชิ้นเล็ก ๆ ในการปะ วิธีการปะจะคล้ายคลึงกัน โดยเริ่มจากถอดยางออกมา เพื่อปะรอยรั่วจากด้านใน ใช้กระดาษทรายหรือหัวเจียรขัดผิวรอบ ๆ รูรั่วให้สะอาด และให้มีพื้นผิวสากเล็กน้อยช่วยให้กาวยึดติดได้ดี สำหรับการทำสตรีมเย็นจะใช้กาวยา ก่อนปะด้วยชุดสตรีมแล้วรีดให้แน่นติดกับล้อยาง แต่หากเป็นสตรีมร้อนจะมีการใช้ความร้อนช่วยในการปะ ทำให้ชิ้นยางแผ่นเล็กที่นำมาปะแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกับยาง เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงประกอบล้อและเติมลมยาง
วิธีปะยางรถยนต์แบบสตรีมสามารถซ่อมแซมยางได้ทั้งรอยรั่วอย่างรอยตะปู และรอยฉีกขาดเล็ก ๆ ข้อดีของการปะยางด้วยวิธีนี้ คือ สามารถปะรูรั่วได้สนิท มีความคงทนกว่าการปะยางแบบแทงใยไหม ส่วนข้อเสีย คือ ขั้นตอนการปะที่ต้องถอดล้อออกมา ทำให้ใช้เวลานาน และต้องถ่วงล้อใหม่หลังทำเสร็จ รวมทั้งมีโอกาสที่ชุดปะยางจะหลุดร่อนหากเจอความร้อนสูงระหว่างการใช้ยาง
ยางรถยนต์ คือ ส่วนที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ แม้ว่าการซ่อมแซมยางรถยนต์จะทำได้ง่ายดายด้วยการปะยาง แต่วิธีปะยางรถยนต์แต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ไม่มีวิธีไหนดีที่สุดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและสถานการณ์ในขณะนั้น ดังนั้น ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยที่จะดูแลตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์อยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับผ่านพื้นที่ที่มีอุปสรรค เช่น การขับลุยน้ำท่วมขัง หรือขับผ่านเขตก่อสร้าง เพราะพื้นที่เหล่านี้มักเป็นตัวการให้ยางรถยนต์ของเราถูกทิ่มตำ หรือเกิดบาดแผล ควรรู้ว่าจะเลือกวิธีปะยางรถยนต์แบบไหนที่เหมาะกับบาดแผลที่เกิดขึ้น ประกอบกับใช้ยางรถยนต์อย่างถูกวิธี ไม่บรรทุกของหนักเกินพิกัด และเปลี่ยนยางตามอายุการใช้งาน เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางอย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น
Cr. BRIDGESTONE