วิธีสังเกตอาการแบตเตอรี่เสื่อมง่าย ๆ
ถ้าหากผู้ขับขี่ละเลยและใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ที่เสื่อมสภาพ ก็จะส่งผลทำให้รถยนต์ของคุณมีประสิทธิภาพลดลงได้ กว่าจะรู้ตัวรถของคุณอาจจะสตาร์ทไม่ติดในเวลาที่คุณเร่งรีบอาจจะยิ่งทำให้คุณเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ควรคอยตรวจเช็คและทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอเพื่อคอยสังเกตดูสิ่งผิดปกติ และวันนี้เราเลยนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตอาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพเบื้องต้น
รถสตาร์ทติดยาก เวลาจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ แล้วกลับมาสตาร์ทรถ ผู้ขับขี่จะสังเกตเห็นได้ว่าขณะที่บิดกุญแจทำการสตาร์ทรถ ผู้ขับขี่จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ลากยาวกว่าปกติ เพราะอาจเกิดจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพทำให้ไม่สามารถเก็บประจุไฟไว้ได้อย่างเหมาะสมและจ่ายไฟได้น้อยลง
ระบบไฟฟ้ารถยนต์ทำงานผิดปกติ ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ทำงานผิดปกติ เช่น กระจกไฟฟ้าเปิด - ปิด ฝืด ๆ ทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ระบบไฟส่องสว่างมีแสงสว่างน้อยลงในเวลากลางคืน ให้ผู้ขับขี่สันนิษฐานได้ว่าประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ
ความดังของแตรลดลง ในขณะที่คุณขับขี่รถอยู่นั้นและบังเอิญต้องใช้แตรให้คุณฟังเสียงแตรว่ามีเสียงเบาผิดปกติหรือไม่ ถ้าหากบีบแตรแล้วไม่ดัง แสดงว่ากำลังไฟจากแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ
การตรวจเช็คแบตเตอรี่ให้รถยนต์ของคุณนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการบำรุงรักษารถยนต์ของคุณให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้รถยนต์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพได้ก็คือการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ที่ดี หากแบตเตอรี่ไม่ดีก็จะทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ตลอดจนถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายในรถยนต์ทำงานได้ไม่ราบรื่น เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ควรตรวจเช็คแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อพูดถึงแบตเตอรี่รถยนต์ โดยเฉลี่ยแล้วแบตเตอรี่ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่แห้ง แบตเตอรี่ชนิดน้ำ จะมีอายุการใช้งาน 3 ถึง 5 ปี ก็ถึงเวลาที่ควรนำรถของคุณไปทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ที่ร้านแบตเตอรี่แล้ว ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ การใช้งานและปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดอาจทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณสั้นลง การเลือกเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
Cr.COCKPIT