บทความ

ไส้กรองอากาศ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

ไส้กรองอากาศ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่

ไส้กรองอากาศ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่
ไส้กรองอากาศ หรือที่เราเรียกกันว่า Air Filter เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของรถยนต์ที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะไส้กรองอากาศนั้น เป็นตัวที่จะช่วยกรองและดักจับฝุ่นละอองรวมไปถึงสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่ห้องเผาไหม้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ได้ เมื่อใช้มาระยะหนึ่ง ไส้กรองอากาศอาจมีอาการอุดตันจากเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรก อาจส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ และทำให้อากาศหรือออกซิเจนผ่านเข้าไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้น้อยลง และอาจส่งผลให้การเผาผลาญของเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ อัตราการเร่งลดลง ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้ในที่สุด


อายุการใช้งานของไส้กรองอากาศ

ไส้กรองอากาศโดยส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานขึ้นอยู่กับระยะทางที่รถวิ่ง (กิโลเมตร) โดยส่วนมากควรถอดนำมา “เป่า” ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร และมักจะเปลี่ยนไส้กรองอากาศกันอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 40,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ระยะเวลาการเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้รถยนต์ของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป


5 สัญญาณเตือนบอกว่าต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศ

หากรถยนต์ของคุณเกิดอาการดังต่อไปนี้ ต้องเริ่มสงสัย ว่าไส้กรองอากาศน่าจะเริ่มมีปัญหาและอาจถึงเวลาต้องทำความสะอาดหรือเปลี่ยนสักที

- กำลังเครื่องยนต์ตก เครื่องเริ่มเร่งไม่ขึ้น

- ตัวไส้กรองอากาศ เมื่อถอดออกดูมีคราบฝุ่น หรือสิ่งสกปรกติดอยู่เป็นจำนวนมาก

- สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

- เครื่องยนต์มีเสียง เหมือนมีปัญหาในการดูดอากาศ

- สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลมีควันดำเขม่าดำออกจากท่อไอเสีย ถ้าเป็นเครื่องยนต์เบนซินจะไม่มีควันหรือเขม่าดำแต่จะมีกลิ่นไอน้ำมันเบนซินออกมามาก

- เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ค่อยติด หรือมีอาการสั่นผิดปกติ เนื่องจากอากาศไหลเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์น้อยไม่ได้ตามสัดส่วนตามประเภทของเครื่องยนต์ ทำให้การเผาไหม้เครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์

สังเกตอาการผิดปกติของเจ้าสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า ไส้กรองอากาศได้ ก็จะช่วยทำให้เครื่องยนต์ของเราไม่ เสียหาย หรือสึกหรอก่อนระยะเวลาอันควร แถมในความเป็นจริงการทำความสะอาด หรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศด้วยตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

 

Cr. PTT

CallAction