บทความ

20 ที่เที่ยวหน้าร้อน 2566 ซัมเมอร์นี้ไปคลายร้อนกัน !!!

 20 ที่เที่ยวหน้าร้อน 2566 ซัมเมอร์นี้ไปคลายร้อนกัน !!!

เปิดลิสต์ 20 ที่เที่ยวหน้าร้อน 2566 ซัมเมอร์นี้ไปคลายร้อนกัน

ที่เที่ยวทะเลหน้าร้อน

หน้าร้อนเที่ยวไหนดี !? เข้าสู่ฤดูกาลแห่งความร้อนแรงจนทนแทบไม่ไหว ต้องหาสถานที่ท่องเที่ยวคลายร้อน ซึ่งในประเทศไทยมีที่เที่ยวหน้าร้อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเล น้ำตก หรือคลองสวยน้ำใสต่าง ๆ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าหน้าร้อนนี้ไปเที่ยวที่ไหนดี 

1. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

          อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หาดนพรัตน์ธารา หาดทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ น้ำทะเลใส อ่าวนาง ชายหาดยาวที่แวดล้อมด้วยภูเขาหินปูน น้ำทะเลสีเขียวมรกต ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกดินได้ด้วย อ่าวไร่เลย์ ชายหาดที่มีทิวเขาหน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน สถานที่ปีนหน้าผาสุดฮิต เกาะพีพีดอน สถานที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.7 จุดเด่นคือเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม เกาะพีพีเล ประกอบไปด้วยภูเขาหินปูน หน้าผาสูงชัน และหาดทรายขาวสะอาดสวยงามอย่าง อ่าวมาหยา อัญมณีสำคัญของท้องทะเลไทย และทะเลแหวก ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากอิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลง ทำให้เกิดสันทรายสีขาวสะอาดทอดตัวยาวสวยงาม เป็นต้น

 

2. เกาะผ้า จังหวัดพังงา

          เกาะที่เป็นส่วนหนึ่งของเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 10 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเกาะเล็ก ๆ เดิมเกาะผ้าแห่งนี้เคยเป็นเกาะที่มีต้นไม้ใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนอนเล่น อาบแดด ปิกนิกชิล ๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี พ.ศ. 2547 ต้นไม้บนเกาะก็ถูกซัดโค่นหาย แทบไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย นอกจากชายหาดและน้ำทะเล จนเป็นที่มาของชื่อ "เกาะผ้า" เนื่องจากเรียบเหมือนผ้านั่นเอง จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างคือการเกิดปรากฏการณ์คล้ายทะเลแหวก ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเมื่อน้ำทะเลต่ำจนสันทรายของเกาะโผล่พ้นน้ำขึ้นมา นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปเที่ยวได้ หรือถ้าวันไหนที่น้ำลดระดับลงไม่สุดก็จะเห็นเป็นเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะ แต่ถ้าวันนั้นเป็นวันที่น้ำทะเลลดต่ำสุด ก็จะกลายเป็นเกาะเดียวที่มีขนาดเกือบ 1 ตารางกิโลเมตร

 

3. เที่ยวทะเลภูเก็ต

          แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังและเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่นี่เต็มไปด้วยสีสัน ขณะเดียวกันก็มีธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับท้องทะเลสวยและหาดทรายขาว ๆ หน้าร้อนนี้ภูเก็ตคืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยม โดยเฉพาะการได้ไปสัมผัสกับหาดป่าตอง หาดที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีชายหาดเป็นแนวยาว หาดทรายขาวละเอียด และมีกิจกรรมทำมากมาย, หาดกะรน มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เม็ดทรายขาวละเอียด แถมยังมีทั้งโรงแรม ร้านค้า และร้านอาหารบริการ, หาดกะตะน้อย หาดกะตะใหญ่ เป็นหาดที่อยู่ติดกัน ผืนทรายขาวละเอียด ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่งดงาม และหาดสุรินทร์ ที่มีชายหาดทอดตัวเป็นแนวยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ทรายขาวละเอียด เต็มไปด้วยสีสันของร่มและเตียงผ้าใบตั้งเรียงอยู่ตามชายหาด เป็นต้น

 

4. เกาะนกเภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวไทย เขตพื้นที่ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากท่าเรือดอนสักราว ๆ 30 นาที ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านดั้งเดิมราว ๆ 40 ครัวเรือน จึงทำให้มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การไปเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ บนเกาะมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบริมทะเลสลับกับพื้นที่ภูเขา เต็มไปด้วยป่าไม้เขียวขจี และระบบนิเวศทางท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์มาก มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ทั้งการเล่นน้ำทะเล พายเรือยางชมปลาและปะการังที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง ขี่จักรยานลัดเลาะไปตามถนนเส้นเล็ก ๆ ไปชมชุมชนชาวประมง เยี่ยมชมธนาคารปู หรือเช็กอินที่ "หาดล่องหน" ชายหาดสวยอัศจรรย์ที่จะโผล่ขึ้นมาบางฤดูเท่านั้น และถ้าหากเป็นช่วงท่องเที่ยวอย่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ก็จะมีสันทรายโผล่ยื่นออกไปในทะเลด้วย ทั้งนี้ บนเกาะมีโฮมสเตย์ให้บริการ

 

5. เกาะกระดาน จังหวัดตรัง

          เกาะสวยในจังหวัดตรัง ตั้งอยู่ในท้องที่ของตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีลักษณะรูปร่างยาว มีพื้นที่รวมประมาณ 600 ไร่ ซึ่งก็มีทั้งพื้นที่ป่าเขาและชายหาด ซึ่งชายหาดที่นี่สวยงามอันดับต้น ๆ ของจังหวัดตรังเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่ได้เป็นทรายสีขาวนวล แต่ก็สะอาดสะอ้าน น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส บรรยากาศเงียบสงบ มีที่พัก ร้านค้าและร้านอาหารไว้รองรับ จะมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริปก็ได้ หรือถ้าใครพอมีเวลาก็แนะนำให้ลองมานอนพักค้างคืนกัน

 

6. อ่าวคราม จังหวัดชุมพร

          ชุมชนชาวประมงเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลอ่าวไทย ในตำบลด่านสวี อำเภอสวี ตัวบ้านพักมีลักษณะเป็นบ้านไม้ยื่นลงไปในทะเล ด้านข้างเป็นภูเขาและสวนมะพร้าว บรรยากาศค่อนข้างส่วนตัวและเงียบสงบมาก มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น การบามหมึก, ดำน้ำชมปะการังตามเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง, การล่องเรือตกหมึก และยังได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารทะเลสด ๆ โดยเกาะที่นิยมไปเที่ยวชมคือ "เกาะกุลา" เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร มีหาดทรายขาวสะอาด รอบ ๆ เกาะจะมีแนวปะการังกว้างประมาณ 50-150 เมตร ให้ได้ไปแหวกว่ายดำน้ำชมกันอย่างจุใจ

 

7. เกาะจาน เกาะท้ายทรีย์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          คลายร้อนด้วยการลงไปสัมผัสกับโลกใต้ทะเล ณ เกาะจาน เกาะท้ายทรีย์ แหล่งดำน้ำในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 7 กิโลเมตร โดย "เกาะจาน" อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดวนกร เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ มีหาดทรายขาวสะอาด รวมทั้งมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์อยู่รอบ ๆ เกาะ และเดินเล่นบริเวณชายหาดที่มีความยาวประมาณ 100 เมตรได้ แต่ไม่อนุญาตให้เดินเที่ยวชมเกาะในส่วนอื่น ๆ เพราะที่นี่ได้รับสัมปทานรังนก ห่างจากเกาะจานไปเพียง 300 เมตร เป็นที่ตั้งของ "เกาะท้ายทรีย์" บริเวณรอบ ๆ เกาะมีธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่สวยงามเช่นกัน โดยสามารถดำน้ำได้บริเวณหน้าเกาะและบนชายหาดเท่านั้น เนื่องจากได้รับสัมปทานรังนกเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ในการเดินทางไปเที่ยวนั้นสามารถติดต่อจองเรือกับทางอุทยานแห่งชาติ

 

8. อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          ที่เที่ยวหน้าร้อนสุดฮอต ตั้งอยู่ในเขตกองบิน 5 กองทัพอากาศ ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นหาดสะอาด มีธรรมชาติสวยงาม เหมาะแก่การเล่นน้ำหรือจะเดินเล่นริมชายหาด ยามน้ำลดจะปรากฏสันทรายทอดยาวให้เดินไปเที่ยวชมได้ โดยอ่าวมะนาวมีลักษณะเป็นชายหาดโค้งครึ่งวงกลม หากมองจากมุมสูงจะคล้ายกับมะนาวครึ่งผล มีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ทั้งสองด้านของชายหาดนั้นเป็นภูเขาสูง คือ เขาล้อมหมวก และเขาคลองวาฬ สภาพของชายหาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ เพราะน้ำไม่ลึก คลื่นลมไม่แรง และยังสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด ถ้ามาช่วงที่คลื่นลมสงบ น้ำทะเลจะสวยใส มองเห็นพื้นทรายใต้ทะเลได้หลายเมตร มีทิวสนร่มรื่นตลอดแนวชายหาด บรรยากาศเงียบสงบ

 

9. เกาะหมาก จังหวัดตราด

          เกาะสวยทางฝั่งอ่าวไทย ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างและเกาะกูด เสน่ห์ของเกาะหมากอยู่ที่ความเงียบสงบ ไม่ค่อยมีสถานที่บันเทิงมากนัก น้ำทะเลใสแจ๋ว จะเล่นน้ำหรือชมปะการังสวยก็ทำได้จุใจ แนะนำว่าการไปเที่ยวเกาะหมากควรไปเที่ยวแบบค้างคืน เพราะว่าตัวเกาะอยู่ห่างจากฝั่งค่อนข้างมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวควรซื้อแพ็กเกจจากทางที่พักบนเกาะหมากไปก่อนล่วงหน้าจะสะดวกที่สุด สำหรับกิจกรรมห้ามพลาดบนเกาะหมาก นั่นคือ การดำน้ำ ซึ่งจุดที่สามารถดำน้ำชมปะการังได้อย่างสวยงาม ได้แก่ บริเวณหมู่เกาะรัง, เกาะยักษ์ใหญ่, เกาะยักษ์เล็ก และเกาะมะปริง เป็นต้น

 

10. อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม จังหวัดชลบุรี

          สถานที่ท่องเที่ยวทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี น้ำทะเลสีฟ้าสวยใส ชายหาดขาวสะอาด มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์มากมาย เช่น ปะการังเขากวาง, ปะการังโต๊ะ และปะการังสมอง จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบดำน้ำชมปะการัง อีกทั้งรอบเกาะยังมีหาดทรายขาวสะอาดและเงียบสงบ เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อน และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนเขา สามารถมองเห็นท้องทะเลสัตหีบได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ทั้งนี้ ปัจจุบันเกาะขามเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยให้เข้าเที่ยวชมแบบไปเช้า-เย็นกลับเท่านั้น ห้ามค้างคืน

 

ที่เที่ยวหน้าร้อนไม่ใช่ทะเล

 

11. ล่องแก่งเรือยางแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

          แก่งกระจาน นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่บรรยากาศสวยงาม น่าไปเที่ยวพักผ่อนชิล ๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันให้ได้ไปสัมผัสกันด้วย หนึ่งในกิจกรรมสุดฮิตก็คือ การล่องแก่งเรือยางไปตามแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาสูงชันในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไหลเข้าสู่เขื่อนแก่งกระจาน แล้วไหลต่อไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเพชรบุรี โดยจุดล่องแก่งเรือยางจะอยู่ด้านหลังเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งจะมีน้ำให้ได้เล่นกันตลอดทั้งปี มีระยะทางราว ๆ 6-8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ระดับการล่องแก่งไม่ยาก สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีที่พักให้บริการริมแม่น้ำเพชรบุรีมากมาย สอบถามรายละเอียดการล่องแก่งจากที่พักได้เลย

 

12. ล่องแก่งหนานมดแดง จังหวัดพัทลุง

          แหล่งท่องเที่ยวพัทลุงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม เป็นการล่องเรือคายักไปตามคลองน้ำใส ซึ่งน้ำในลำคลองจะมีตลอดทั้งปี เพราะมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส โดยผู้ที่ริเริ่มกิจกรรมล่องแก่งในคลองน้ำใส คือ หนานมดแดงรีสอร์ท จึงทำให้ที่นี่มีชื่อเรียกกันปากต่อปากว่า "ล่องแก่งหนานมดแดง" โดยจะมีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องราว ๆ 2 ชั่วโมง มีระดับความยากอยู่ที่ 2-3 สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว

 

13. ล่องแพบ้านวังหอน จังหวัดนครศรีธรรมราช

          สนุกสนานกับการล่องแพบ้านวังหอน ตั้งอยู่ที่อำเภอชะอวด เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมสนุก ๆ ในชุมชน แต่หนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดนั่นคือ การล่องแพไม้ไผ่ ท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น ฟินกับลำธารน้ำใสไหลเย็น ซึ่งเป็นคลองธรรมชาติที่เกิดจากป่าต้นน้ำของเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่แม่น้ำปากพนัง หรือใครอยากจะสัมผัสธรรมชาติให้เต็มที่ ที่นี่ยังให้บริการที่พักอีกด้วย ได้ตื่นมาเจอเขา เจอน้ำ เจอต้นไม้ และเจออากาศบริสุทธิ์แบบนี้ เป็นใครจะไม่ชอบบ้าง

 

14. สระมรกต จังหวัดกระบี่

          Unseen Thailand ชื่อดัง ตั้งอยู่บริเวณป่าทุ่งเตียว ตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม โดยมีที่เที่ยวไฮไลต์สำคัญคือ สระมรกต สระน้ำธรรมชาติที่มีสีเขียวเหมือนมรกตขนาดใหญ่ ความใสทำให้มองเห็นพื้นหินข้างล่างได้ชัดเจน ซึ่งน้ำในสระมรกตเป็นน้ำกระด้าง ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืชและปลา จึงไม่มีสัตว์น้ำและพืชน้ำในสระเลย บริเวณรอบ ๆ สระมรกตยังมีศาลาให้นั่งพักผ่อน ชมทิวทัศน์รวมถึงสะพานไม้ที่เชื่อมออกจากป่าสู่ศาลาริมน้ำ ซึ่งเราสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำเล่นในบรรยากาศแสนร่มรื่น พักผ่อนหย่อนใจริมสระ หรือจะไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ก็ทำได้ตามอัธยาศัย

 

15. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          หนึ่งในแลนด์มาร์กของสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาสก มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ยอดแหลม กลางสายน้ำของเขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกมากมาย ทั้งว่ายน้ำ พายเรือคายัก ตกปลา ดูนก เดินป่าสำรวจธรรมชาติ เรียกได้ว่าครบหมดทั้งกิจกรรมบนบกและในน้ำ แถมยังมีที่พักให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้บริการมากมาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ของเมืองไทยที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาด

 

16. ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          บ่อน้ำที่ผุดขึ้นมาที่เชิงเขาในป่าของบ้านน้ำราด ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม แหล่งท่องเที่ยวอันซีนภาคใต้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก โดยน้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินนั้นไหลลอดใต้ภูเขาผ่านออกมายังจุดที่เรียกว่า "ตาน้ำ" เป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์และชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จุดเด่นคือเป็นป่าต้นน้ำ ทำให้น้ำมีความใสมองเห็นพื้นด้านล่างได้ด้วยตาเปล่า สามารถลงไปนอนแช่น้ำแบบสบาย ๆ และที่นี่ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ เว้นแต่มีค่าที่จอดรถ ค่าบริการนั่งเรือชมวิว ทั้งนี้ อยากให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษากฎระเบียบและมีวินัยในการเข้าเยี่ยมชม เพื่อที่ป่าต้นน้ำจะได้ไม่ถูกทำลายและยังสวยงามเสมอ นอกจากนี้ยังมีน้ำชา กาแฟ และเค้กโฮมเมด ราคากันเองบริการด้วย

 

17. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี

          หนึ่งในน้ำตกที่ติดอันดับความสวยงามและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากอำเภอเมือง 108 กิโลเมตร น้ำตกแห่งนี้แบ่งออกเป็น 7 ชั้น มีชื่อเรียกต่าง ๆ กันไปแต่ละชั้น ทั่วบริเวณร่มรื่นด้วยพรรณไม้ป่านานาชนิด อีกทั้งแต่ละชั้นก็มีความสูงและความสวยงามต่างกันไป ทางอุทยานได้ทำเส้นทางเดินสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้น และยังเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี

 

18. บ้านกร่างแคมป์ จังหวัดเพชรบุรี

          สถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จริง ๆ แล้วภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมมากมาย แต่สำหรับใครที่เลือกมาเที่ยวช่วงหน้าร้อนไม่ควรพลาดกับกิจกรรมดูผีเสื้อสวย ๆ ที่บ้านกร่างแคมป์ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ยลโฉมความสวยงามของผีเสื้อได้อย่างใกล้ชิด หลากหลายสีสันและสายพันธุ์ ปกติแล้วจะมีให้เห็นช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน แถมยังสามารถเดินทางไปยังจุดชมวิวที่เขาพะเนินทุ่งได้อีกด้วย ใครรู้ตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติน่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย

 

19. สวนพฤกษศาสตร์ระยอง จังหวัดระยอง

          สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในพื้นที่บึงสำนักใหญ่ (หนองจำรุง) ตำบลชากพง อำเภอแกลง แหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่สำคัญ ที่นี่เป็นบึงน้ำจืดธรรมชาติคล้ายแอ่งกระทะ คอยรองรับน้ำที่ไหลมารวมกัน โดยมีเกาะตั้งอยู่กลางบึง ประกอบไปด้วยป่าเสม็ดขาวและสังคมพืชท้องถิ่นที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ สภาพพื้นที่ภายในเกาะผสมผสานถึงกันระหว่างบึงน้ำจืดและป่าพรุซึ่งรวมอยู่ในนิเวศเดียวกัน การเข้าไปเที่ยวชมแบ่งออกเป็น 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ ทางน้ำ นั่งเรือชมธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำโดยรอบ, ทางน้ำ+ต่อด้วยทางบก นั่งเรือและเดินทางกลับออกจากเกาะโดยเส้นทางบก หรือให้เรือรอรับกลับทางน้ำ (เส้นทางเดิม) และทางบก โดยใช้รถจักรยานหรือการเดินเท้าเข้าสู่พื้นที่เกาะตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าร้อนที่น่าสนใจ

 

20. ตกปลาหมึกพัทยา จังหวัดชลบุรี

          อีกหนึ่งกิจกรรมที่แนะนำเมื่อมาเยือนเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี คือ การตกหมึก ซึ่งจะมีคาเฟ่หลาย ๆ แห่งที่ให้บริการนั่งแพตกหมึกเองกลางทะเล พร้อมชมวิวเมือง พระอาทิตย์ตกดิน หรือวิวเมืองยามค่ำคืน โดยมีกิจกรรมให้เลือกทำ ที่สำคัญหากตกได้ยังมีบริการทำซาชิมิสด ๆ หรือปิ้งย่างพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดและวาซาบิให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมคลายร้อนที่ดีไม่น้อย

 

Cr. K@pook

 

CallAction